38 Drinks: เรื่องจริงยิ่งกว่านิยายของ ‘มอร์แกน โรเจอร์ส’
คุณคิดว่านักเตะระดับ ลีกวัน จะมีอาชีพค้าแข้งไปได้ไกลสักแค่ไหน ? ถ้าคิดว่าเต็มที่ก็คงเล่นลีก แชมเปี้ยนชิพ หรือหนีตกชั้นใน พรีเมียร์ลีก ล่ะก็ ผมขอบอกตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าคุณคิดผิด
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดในเวลานี้คือ มอร์แกน โรเจอร์ส ซึ่งเรื่องราวชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรนั้น ตามอ่านไปด้วยกันเลยครับ
ถึงแม้ว่าปัจจุบันแข้งรายนี้จะอายุแค่ 22 ปี แต่ก็ถือว่ากร้านโลกพอสมควรเมื่อผ่านการเล่นฟุตบอลมาแล้วกับ 7 สโมสร เริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่ขนยังขึ้นไม่ครบทุกอวัยวะ โดยอยู่กับทีมเยาวชนของ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ตั้งแต่อายุแค่ 9 ขวบ
และด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมเกินเด็กส่งผลให้เขาได้มาอยู่ในอะคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2019 ซึ่งช่วงเวลานี้เองทำให้เขาได้มีเพื่อนซี้ที่ชื่อว่า โคล พาลเมอร์
อย่างไรก็ตามเจ้าตัวก็ยังไม่สามารถเบียดขึ้นไปมีชื่อในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้จนต้องเก็บกระเป๋าย้ายไปอยู่กับ ลินคอล์น ซิตี้ ทีมระดับ ลีกวัน ด้วยสัญญายืมตัว ในฤดูกาล 2020/21 ซึ่งทำให้เขาได้เตะฟุตบอลกับแข้งที่มีกระดูกแกร่งกว่าอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก
โดยหลังจากนั้นก็ยังคงถูกปล่อยยืมตัว แต่ดีขึ้นมาหน่อยที่เป็นทีมระดับ แชมเปี้ยนชิพ ในเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็น บอร์นมัธ หรือ แบล็คพูล จนกระทั่งเซ็นสัญญาถาวรกับ มิดเดิลสโบรห์ ซึ่งที่นี่เองทำให้คนเริ่มพูดถึงเขาอีกครั้ง
แต่ก็ยังไม่ใช่เรื่องของฟุตบอล เนื่องจากท่าดีใจนั้นไปเหมือนกับ โคล พาลเมอร์ เพื่อนซี้สมัยยังเป็นเด็กน้อยที่แคมป์ ‘เรือใบ’ ซึ่งได้มีการเปิดเผยภายหลังว่าอันที่จริงแล้ว ท่าดีใจนี้เขาเป็นคนออกแบบ แต่ว่าแข้งซุปตาร์รายนี้ดันชอบจนขอใช้บ้าง แล้วบังเอิญดันไปยิงบ่อยซะด้วย
ทว่าทีมงานของ แอสตัน วิลล่า ก็สายตาเฉียบคมจนไปดึงมาเด็ดดมได้สำเร็จ และล่าสุดเจ้าตัวก็ทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในเกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบลีกเฟส เมื่อเป็นแข้งที่เคยผ่านดิวิชั่น 3 เป็นคนแรกที่ทำแฮททริคได้ในถ้วยหูโต
นอกจากนั้นเขายังเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์รายการนี้ ที่สามารถทำได้ถึง 2 ประตู ตั้งแต่ช่วง 5 นาทีแรก โดยเกมดังกล่าวจบลงที่ชัยชนะของ แอสตัน วิลล่า ซึ่งทำให้ทัพ ‘สิงห์ผงาด’ การันตีเข้าไปรอโม่แข้งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที
เรื่องราวของ มอร์แกน โรเจอร์ส นั้นต้องบอกว่ามีเรื่องราวมากมายอย่างกับละคร แต่ก็เต็มไปด้วยข้อคิด ที่ทำให้เรานำไปวิเคราะห์ และแยกแยกได้
ไม่กี่ปีกอน เขายังเป็นแค่ดาวรุ่งส่วนเกินของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนต้องไปเล่นกับทีมต่ำชั้น แต่ว่าระยะเวลาแค่ไม่นาน เขากลายเป็นตัวแปรสำคัญในการพาทีมผ่านเข้ารอบ
หากจะเปรียบเทียบกับชีวิตคนเรา มันก็พอจะเป็นกำลังใจให้ได้ว่าต่อให้ปัจจุบันจะเจอเรื่องราวแย่ ๆ แค่ไหน แต่แล้วมันจะผ่านไปด้วยดี และเมื่อนั้นเราจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
ย้อนกลับมาที่ มอร์แกน โรเจอร์ส ตอนนี้น่าจับตาเหลือเกินว่าในวัย 22 ปี กับความเป็น ‘แมตช์ วินเนอร์’ ที่มีอยู่บางที แอสตัน วิลล่า อาจจะเล็กเกินไปสำหรับเขา ดีไม่ดีคนจะได้รู้สักทีว่า ท่าดีใจอันเป็นสัญลักษณ์ของความหนาวเหน็บนั้นไม่ได้มาจาก โคล พาลเมอร์ แต่เป็นเขาที่สร้างสรรขึ้นมาเอง
อย่างไรก็ตามสำคัญที่สุดคือการรักษามาตรฐานให้ได้ เพราะว่าที่ผ่านมามีนักเตะมากมายที่เปิดตัวเหมือนจะเก่ง ก่อนที่จะเป็นแค่ผู้เล่นธรรมดา ซึ่งเราหวังว่าเขาจะไม่เป็นเช่นนั้น
เขียนโดย The Lite Team
38 Drinks